หลายคนคงเคยประสบปัญหาเรื่องกลิ่นปากเรื้อรัง สร้างความกังวลและลดทอนความมั่นใจในการสื่อสาร กลิ่นปาก หรือ ลมหายใจมีกลิ่นเหม็น (Halitosis) เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ แต่สาเหตุที่พบบ่อยที่สุดคือ การสะสมของคราบหินปูน บนผิวฟันและซอกเหงือก

คราบหินปูน เกิดจากแบคทีเรียในช่องปากสะสมตัวและเกาะติดบนผิวฟัน หากไม่ได้รับการทำความสะอาดอย่างถูกวิธี คราบหินปูนจะแข็งตัว กลายเป็นคราบหินปูน ซึ่งไม่สามารถแปรงฟันออกได้ด้วยตัวเอง จำเป็นต้องพบทันตแพทย์เพื่อขูดหินปูนออก

การขูดหินปูน เป็นวิธีการทำความสะอาดช่องปากอย่างล้ำลึก ช่วยขจัดคราบหินปูน แบคทีเรีย และเศษอาหารที่สะสมอยู่ตามซอกฟันและบริเวณโคนฟัน ซึ่งเป็นแหล่งสะสมของเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดกลิ่นปาก

แล้วการขูดหินปูนช่วยลดกลิ่นปากได้จริงหรือไม่? คำตอบคือ ใช่ การขูดหินปูนช่วยลดกลิ่นปากได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะเป็นการกำจัดแหล่งสะสมของเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของกลิ่นปากโดยตรง

กลไกการลดกลิ่นปากของการขูดหินปูน

1. กำจัดคราบหินปูน: คราบหินปูนเป็นแหล่งสะสมของแบคทีเรียซึ่งเป็นสาเหตุหลักของกลิ่นปาก การขูดหินปูนจะช่วยกำจัดคราบหินปูนออก ทำให้แบคทีเรียเหล่านี้ไม่มี่แหล่งอาศัย กลิ่นปากจึงลดลง

2. ลดการสะสมของแบคทีเรีย: การขูดหินปูนจะช่วยทำความสะอาดซอกฟันและบริเวณโคนฟัน ซึ่งเป็นจุดที่แปรงฟันทั่วไปเข้าถึงได้ยาก แบคทีเรียจึงสะสมตัวได้ง่าย การขูดหินปูนจะช่วยขจัดแบคทีเรียที่สะสมอยู่ตามซอกฟันและบริเวณโคนฟัน ช่วยลดการสะสมของแบคทีเรีย ทำให้กลิ่นปากลดลง

3. กระตุ้นสุขภาพช่องปาก: การขูดหินปูนจะช่วยกระตุ้นสุขภาพเหงือก ช่วยลดการอักเสบของเหงือก ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสาเหตุของกลิ่นปาก เมื่อเหงือกมีสุขภาพดี แบคทีเรียจะน้อยลง กลิ่นปากจึงลดลง

ผลลัพธ์หลังการขูดหินปูน

• กลิ่นปากลดลงอย่างเห็นได้ชัด: โดยทั่วไปจะรู้สึกได้ภายใน 1-2 วันหลังการขูดหินปูน
• ฟันสะอาด: ฟันขาวขึ้น คราบพลัคบนฟันลดลง
• เหงือกมีสุขภาพดี: เหงือกกระชับ ลดการอักเสบของเหงือก
• ลมหายใจสดชื่น: รู้สึกมั่นใจในการสื่อสารมากขึ้น

การขูดหินปูนบ่อยแค่ไหนจึงดี?

โดยทั่วไป แนะนำให้ขูดหินปูน ปีละ 1-2 ครั้ง ขึ้นอยู่กับสุขภาพช่องปาก ผู้ที่มีปัญหาสุขภาพช่องปาก เช่น โรคปริทันต์ ควรขูดหินปูนบ่อยกว่า อาจจะ 3-4 ครั้งต่อปี หรือตามที่ทันตแพทย์แนะนำ

การดูแลช่องปากหลังการขูดหินปูน

• แปรงฟันอย่างถูกวิธี วันละ 2 ครั้ง เช้าและเย็น ใช้เวลาแปรงฟันอย่างน้อย 2 นาที
• ใช้ไหมขัดฟันทุกวัน ก่อนนอน
• ใช้ยาสีฟันที่มีฟลูออไรด์
• พบทันตแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพช่องปากเป็นประจำ ทุก 6 เดือน